MSM และวัยรุ่น: กลุ่มที่ต้องรู้เท่าทัน STI มากที่สุดในปี 2025

Photo of author

By Doctor Consult

MSM และวัยรุ่น
Love2test

ปี 2025 เป็นอีกปีที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) โดยเฉพาะในสองกลุ่มหลักคือ MSM และวัยรุ่น ทั้งสองกลุ่มมีพฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงเฉพาะที่ทำให้โอกาสติดเชื้อ STI สูงกว่ากลุ่มทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการมีคู่นอนหลายคน การใช้ถุงยางไม่สม่ำเสมอ การเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำกัด หรือการขาดความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคทางเพศ

ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ของไทย กลุ่ม MSM และวัยรุ่นถือเป็นกลุ่มประชากรสำคัญที่มีอัตราการติดเชื้อ ซิฟิลิส หนองใน หูดหงอนไก่ และเอชไอวี (HIV) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคชี้ว่า สัดส่วนของผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่กว่า 40% อยู่ในกลุ่มอายุ 15–24 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มักขาดการเข้าถึงการตรวจและการป้องกันที่เหมาะสม

พฤติกรรมทางเพศในยุคดิจิทัล: ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความเสี่ยง

การใช้ แอปหาคู่และสื่อสังคมออนไลน์ กลายเป็นช่องทางหลักในการพบคู่นอนของวัยรุ่นและกลุ่ม MSM (ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย) การเข้าถึงที่ง่ายขึ้นทำให้โอกาสเกิดเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ความอายและการตีตราทางสังคมก็ยังเป็นกำแพงที่ทำให้หลายคนไม่กล้าไปตรวจ STI หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

Love2test

นอกจากนี้ การใช้สารกระตุ้น เช่น ยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ก่อนมีเพศสัมพันธ์ (เรียกว่า Chemsex) ก็เป็นปัจจัยที่เพิ่มโอกาสการติดเชื้อ โดยเฉพาะในกลุ่ม MSM ที่มีแนวโน้มใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจหรือสร้างความใกล้ชิดในระหว่างกิจกรรมทางเพศ

โรคที่พบมากใน MSM และวัยรุ่นปี 2025

ข้อมูลล่าสุดจากรายงานสุขภาพในกรุงเทพฯ ชี้ว่าโรคที่พบบ่อยในสองกลุ่มนี้คือ

  • ซิฟิลิส: เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวัยรุ่นและชายรักชาย โดยเฉพาะหลังยุคโควิด-19 ที่การเข้าถึงบริการตรวจรักษาลดลง
  • หนองใน: มีแนวโน้มเชื้อดื้อยามากขึ้น ทำให้การรักษาต้องได้รับการติดตามใกล้ชิด
  • หูดหงอนไก่ (Genital Warts): เกิดจากการติดเชื้อ HPV ที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน แต่ยังมีอัตราการฉีดต่ำในผู้ชาย
  • HIV: แม้จะมี PrEP และ PEP เป็นเครื่องมือป้องกันที่มีประสิทธิภาพ แต่การใช้อย่างต่อเนื่องยังคงต่ำในกลุ่มเยาวชนและ MSM

การขาดความรู้และทัศนคติที่ผิด: อุปสรรคใหญ่ของการป้องกัน

การขาดความรู้และทัศนคติที่ผิด

วัยรุ่นและ MSM หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการติดต่อของโรค เช่น การคิดว่าถ้าไม่มีอาการก็แปลว่า “ไม่ติด” หรือการเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางปากปลอดภัย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเชื้อ STI หลายชนิดสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสโดยตรง รวมถึงทางช่องปากและทวารหนัก

การขาดหลักสูตรสุขศึกษาเรื่องเพศในโรงเรียนยังเป็นอีกสาเหตุสำคัญ วัยรุ่นจำนวนมากต้องหาข้อมูลเองจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งบางครั้งไม่ถูกต้องและสร้างความเข้าใจผิด เช่น การใช้ยาผิดวิธี หรือหลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ป้องกันที่ไม่ได้รับการรับรอง

“ChatLove2test"

การตรวจและป้องกัน: สิ่งที่ MSM และวัยรุ่นควรทำ

การรู้เท่าทันและตรวจสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยง

  • ตรวจ STI ทุก 3–6 เดือน โดยเฉพาะถ้ามีคู่นอนใหม่
  • ใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นทุกครั้ง
  • ใช้ PrEP (ยาเพร็ป) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ก่อนมีความเสี่ยง
  • รับวัคซีน HPV ตั้งแต่วัยรุ่น เพื่อป้องกันมะเร็งและหูดหงอนไก่
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือคลินิกเฉพาะทาง ที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+

การตรวจไม่ได้หมายถึง “การยอมรับว่ามีความเสี่ยง” แต่คือการแสดงความรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเองและคู่ของเรา

แนวทางของภาครัฐและชุมชนในปี 2025

กรุงเทพฯ เริ่มผลักดันนโยบาย “Sexual Health for All” เพื่อขยายบริการตรวจและให้คำปรึกษาด้านเพศอย่างเท่าเทียม โดยร่วมมือกับคลินิกชุมชนและองค์กรภาคประชาสังคม (NGO) เพื่อให้ MSM และวัยรุ่นสามารถเข้าถึงบริการได้โดยไม่ถูกตีตรา

ขณะเดียวกัน โครงการรณรงค์อย่าง “Love2Test” และ “Safe Love Bangkok” ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลเรื่อง PrEP, PEP, การตรวจฟรี, และการจองคิวออนไลน์ที่ง่ายและเป็นส่วนตัว

“PrEPLove2test"

บทบาทของเทคโนโลยี: เมื่อการป้องกันเริ่มต้นที่ปลายนิ้ว

ปี 2025 เป็นปีที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดช่องว่างระหว่าง “การรู้” และ “การเข้าถึง” เช่น

  • การจองคิวตรวจออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม อย่าง Love2Test ที่ช่วยให้ตรวจได้ทุกที่ทุกเวลา
  • บริการ Telehealth สำหรับปรึกษาแพทย์โดยไม่ต้องเดินทาง
  • Chatbot เพื่อนคู่คิดด้านเพศ ที่ตอบคำถามเบื้องต้นโดยไม่ต้องอาย
    ทั้งหมดนี้ช่วยให้ MSM และวัยรุ่นเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและบริการที่ปลอดภัยมากขึ้น

ความรู้คือวัคซีนที่ดีที่สุด

ในยุคที่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังคงแพร่ระบาด การรู้เท่าทันคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับ MSM และวัยรุ่น ความเข้าใจที่ถูกต้อง การตรวจซ้ำอย่างสม่ำเสมอ การใช้ PrEP และวัคซีน HPV จะช่วยลดการแพร่เชื้อในระยะยาวได้อย่างแท้จริง

ในปี 2025 หากสังคมสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ “เปิดรับ พูดได้ และไม่ตีตรา” การป้องกัน STI จะไม่ใช่เรื่องของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไป แต่คือความร่วมมือของทุกคนในการสร้างสังคมสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัยสำหรับทุกเพศ ทุกวัย

อ้างอิง

  1. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (2566). รายงานสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ประเทศไทย
  2. UNAIDS (2024). State of HIV Prevention Among Youth and MSM in Asia-Pacific
  3. Bangkok Post (2025). “STI cases rise among Bangkok youth and MSM”
  4. WHO (2024). Global Health Sector Strategy on Sexually Transmitted Infections 2022–2030
  5. Love2Test Platform (2025). “PrEP Access and Online Sexual Health Services in Thailand”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save